ปัจจุบัน ธุรกิจผลิตนํ้าดื่มมีมูลค่าตลาดสูงถึงประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อปี และมีผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่รวมกันประมาณ 2,000 ราย การผลิตนํ้าดื่มมีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมากจากหลายปัจจัยเช่น ปัญหาความเสื่อมโทรมของแหล่งนํ้าธรรมชาติ , มลภาวะจากแหล่งต่างๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นต้น ทำให้แหล่งนํ้ามีภาวะปนเปื้อน รวมถึงจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นต้น สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาในตลาดนี้สูงถึงร้อยละ 20-30 ต่อปี
ในท้องตลาด นํ้าดื่มสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ นํ้าดื่มในภาชนะที่เป็นพลาสติกใสและพลาสติกขุ่น ผู้บริโภคจะนิยมดื่มน้ำในภาชนะบรรจุที่เป็นพลาสติกใสมากกว่า เพราะมีความเชื่อมั่นต่อความสะอาดและปลอดภัย การที่ผู้บริโภคหันมานิยมดื่มนํ้าบรรจุขวด เนื่องจากหาซื้อง่าย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงฉลากต้องระบุชื่อ ตราน้ำ ดื่มที่ตั้งของผู้ผลิต ปริมาตรสุทธิ เลขทะเบียน อย. อย่างชัดเจน
การทำน้ำดื่มบรรจุขวดและถัง ใช้เงินลงทุนโดยเฉลี่ยประมาณ 300,000 – 1,000,000 บาท ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตและเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้
ขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจผลิตน้ำดื่ม
1. ติดต่อกับหน่วยงานราชการ
2. จัดเตรียมในส่วนของพื้นที่โรงเรือน
3. จัดเตรียมและในส่วนของเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตน้ำดื่ม
4. จัดเตรียมในส่วนของกำลังคน
5. จัดเตรียมในส่วนของตลาดและกลุ่มลูกค้า
วัสดุอุปกรณ์ / เครื่องมืออย่างน้อยต้องประกอบด้วย
1. เครื่องหรืออุปกรณ์การปรับคุณภาพนํ้า
2. เครื่องหรืออุปกรณ์ล้างภาชนะบรรจุ
3. เครื่องหรืออุปกรณ์การบรรจุ
4. เครื่องหรืออุปกรณ์การปิดผนึก
5. โต๊ะหรือแท่นบรรจุ ที่เหมาะสมสำหรับขนาดบรรจุที่ต่างกัน
6. ท่อส่งนํ้าเป็นท่อพลาสติก PVC หรือวัสดุอื่นที่มีคุณภาพทัดเทียมกัน
วัตถุดิบ วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด คือ น้ำประปา หรือ น้ำบาดาล
กรรมวิธีการผลิต โดยทั่วไป กรรมวิธีการผลิตนํ้าดื่มบรรจุขวดจะแบ่งเป็นขั้นตอนตามที่ อย. กำ หนด ดังนี้
1. ขั้นตอนการกรอง ประกอบด้วยกรองด้วยสารที่เป็นตัวกรอง (ถังกรอง) ชนิดต่างๆ หรือใช้วิธี Reverse Osmosis (R.O)
2. ขั้นตอนการทำ ลายเชื้อจุลินทรีย์ ประกอบด้วยใช้แสงอุลตราไวโอเลต (หลอด U.V.) หรือใช้ระบบโอโซน (Ozone)
การผลิตที่เป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน จะมีกรรมวิธีไม่ค่อยยุ่งยากซับซ้อน ดังนี้
2.1 ) นำนํ้าประปาหรือนํ้าบาดาลเข้าสู่เครื่องกรอง SAND FILTER
2.2 ) ผ่านนํ้าเข้าสู่เครื่องกรอง BASE EXCHANGE UNIT ซึ่ง บรรจุผงกรองเรซิน เพื่อขจัดความ กระด้างของนํ้าและ สารละลายของเหล็กบางส่วนออก
2.3 ) ผ่านนํ้าเข้าสู่เครื่องกรอง ACTIVATED CARBON FILTER ซึ่งบรรจุสารกรอง ACTIVATED CARBON เพื่อขจัดกลิ่น สี และตะกอน
2.4 ) ผ่านน้ำสู่เครื่องกรอง BACTERIA FILTER ซึ่งมีใส้กรองเป็น CERAMIC FILTRATION
2.5 ) นำน้ำผ่านเข้าสู่หลอดอุลตร้าไวโอเลต เพื่อฆ่าเชื้อโรคแล้วจึงผ่านน้ำ เข้าสู่เครื่องบรรจุ เพื่อบรรจุใส่ภาชนะต่อไป
ประมาณการเครื่องจักรอุปกรณ์การลงทุน
เริ่มต้นธุรกิจน้ำดื่ม เครื่องกรองนํ้าและอุปกรณ์ ราคาประมาณ 300,000-400,000 บาท ราคาของเครื่องจักรและอุปกรณ์จะขึ้นอยู่กับกําลังการผลิต หากผู้ประกอบการต้องการเครื่องที่มีกําลังการผลิตสูง ราคาเครื่องก็สูงตามไปด้วย บางบริษัทจะขายครบชุดพร้อมติดตั้ง ประกอบด้วย
· เครื่องกรองแมงกานีส
· เครื่องกรองคาร์บอน
· เครื่องกรองเรซิน
· เครื่องกรองเซรามิค
· หลอดอุลตราไวโอเลตสําหรับฆ่าเชื้อ 1 ชุด
· เครื่อง Reverse Osmosis (R/O)
· หัวบรรจุน้ำสำหรับขวดขนาด 500 มล. และ 950 มล.
· หัวบรรจุสําหรับนํ้าถังขนาด 20 ลิตร
· เครื่องล้างถังนํ้า
· ถังเก็บนํ้า ขนาด 3,000 ลิตร
ตัวอย่าง ประมาณการต้นทุนการผลิต
· พิจารณาค่าใช้จ่ายคงที่ทั้งหมดซึ่งประกอบด้วยค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรอุปกรณ์ ค่าเช่าสถานที่ที่ใช้ในการผลิต ค่าแรง ค่าไฟฟ้า สมมุติว่าเป็นเงิน 600,000 บาท
· ถ้าในแต่ละปีประมาณการยอดขายเท่ากับ 300,000 ขวด
· เพราะฉะนั้น ต้นทุนคงที่ต่อขวดเท่า 600,000 / 300,000 เท่ากับ 2 บาท
· ต้นทุนผันแปรได้แก่ค่าน้ำ สมมุติว่าขวดละ 0.20 บาท
ดังนั้น ต้นทุนต่อขวดเท่ากับ 2+ 0.20 เท่ากับ 2.20 บาท
ประมาณการรายรับ
· รายรับจากการขายน้ำ 300,000 ขวด * ราคาขวดละ 4 บาท = 1,200,000 บาท
· ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม 300,000 ขวด * 2.20 บาทต่อขวด = 660,000 บาท
กำไรสุทธิก่อนภาษี = 540,000 บาท
สำหรับข้อมูลจากบทความ เริ่มต้นธุรกิจน้ำดื่มน่ารู้ น่าจะทำให้ผู้ที่สนใจหรือกำลังจะเริ่มทำน้ำดื่มได้ความรู้ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการทำธุระกิจจ้า
Commenti